เคล็ดลับดีๆ 10 ข้อจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งบ้าน

เตรียมความพร้อม เป็นการคุ้มค่าที่จะใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงในการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ให้ครบ การมีเครื่องมือทั้งหมดอยู่ใกล้ๆจะช่วยให้คุณสามารถทำงานทาสีได้ง่ายขึ้นและสะดวกขึ้น อีกทั้งช่วยประหยัดเวลาอีกด้วย

คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ อย่าใช้สีที่ด้อยคุณภาพ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องทาสีหลายรอบ และทำให้ผนังของคุณดูไม่เรียบเนียน

ใช้แปรงทาสีที่มีคุณภาพ ควรลงทุนซื้อแปรงขนสังเคราะห์คุณภาพดีขนาด 2 นิ้ว (5 ซม.) ในการทาบริเวณขอบต่างๆ

ตัดขอบด้วยความระมัดระวัง นั่นหมายถึงการทาสีที่บริเวณมุมต่างๆ ขอบเพดาน เหนือบัวผนัง รอบขอบหน้าต่างและประตู ก่อน แล้วจึงเลยมาทาส่วนผนังหลัก คุณควรทำขั้นตอนนี้สำหรับผนังแต่ละด้านก่อนที่จะย้ายไปทำขั้นตอนต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าสีทั้งหมดเรียบเนียนกลมกลืนกัน

ใช้ลูกกลิ้งทาสี คุณต้องมีด้ามต่อลูกกลิ้งทาสีความยาวปานกลางคือประมาณ 7 นิ้ว (17 ซม.) สำหรับทาผนังห้อง และหากคุณมีพื้นที่แคบซึ่งจำเป็นต้องทาสี คุณควรมีลูกกลิ้งขนาดเล็กด้วยเช่นกัน หากลูกกลิ้งทาสีของคุณเพิ่งซื้อมาใหม่ ควรล้างด้วยน้ำสบู่ก่อนที่จะเริ่มทาสี เพื่อขจัดขนส่วนเกินและสิ่งสกปรก

หากคุณรู้สึกกังวลกับสีที่หยดจากแปรงทาสี สามารถขจัดปัญหานี้ด้วยการจุ่มแปรงลงในเนื้อสีราวครึ่งหนึ่งของความยาวขนแปรง แล้วปาดแปรงเบาๆ กับขอบกระป๋องเพื่อขจัดสีส่วนเกินออก

ทาสีให้เป็นตัวอักษร หากคุณกำลังจะทาสีพื้นที่กว้างโดยใช้ลูกกลิ้ง ให้เริ่มต้นด้วยการทาสีเป็นตัวอักษร "W"บนผนัง จากนั้นทาสีเป็นตัวอักษร "M" โดยไม่ยกลูกกลิ้งขึ้นจากผนัง วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะทาสีได้อย่างสม่ำเสมอทั้งหมด

เว้นส่วนหน้าต่างเอาไว้ก่อน ไม่ต้องตกใจหากคุณทำสีกระเด็นไปโดนบริเวณหน้าต่างก็ไม่เป็นไร ให้รอจนกว่าสีแห้งแล้วจึงค่อยใช้ที่ขูดสีทำการขูดสีออก

ทำความสะอาดและเก็บรักษาแปรงทาสีอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้ขนแปรงแห้งแข็ง ควรเก็บรักษาแปรงทาสีและลูกกลิ้งทาสีไว้ในถังโดยใช้ผ้าเปียกหมาดคลุมไว้เมื่อไม่ใช้งาน เพื่อไม่ให้ขนแปรงและลูกกลิ้งแห้ง

ทำความสะอาดทันที ในขณะที่ทาสี ควรมีผ้าเปียกหมาดที่ซักสะอาดไว้ใกล้มือ และหมั่นเช็ดรอยสีที่กระเด็น ใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์ปาดสีส่วนเกินออก หมั่นทำความสะอาดไปเรื่อยๆ ในขณะที่คุณทาสีเพื่อลดภาระการทำความสะอาดในขั้นตอนสุดท้าย