น้ำยากันซึมป้องกันปัญหาน้ำรั่วได้ไหม?

น้ำยากันซึมเป็นหนึ่งไอเท็มที่จะช่วยให้ผิวผนังของคุณดูสวยงามและสดสะอาดอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในวิธีป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ง่าย ๆ

การรักษาพื้นผิวของผนังให้ติดคงทนมากที่สุดวิธีหนึ่งคือการใช้น้ำยากันซึมที่เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันการเกิดเชื้อราและตะไคร่น้ำได้อย่างคงทนถาวร โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับวัสดุประเภทต่าง ๆ อาทิ พื้นผิวคอนกรีต ปูน หรือแม้แต่ผนังอิฐ

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันซึมนี้จะช่วยปกป้องผิวผนังให้อยู่ทนถาวรและยังช่วยป้องกันการรั่วซึมได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

นอกจากการใช้น้ำยาที่ช่วยกันซึมได้แล้ว ยังมีสีกันซึมที่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้พื้นผิวบ้านของคุณอยู่ได้ยาวนานมากกว่าเดิม

เคล็ดลับเลือกสีกันซึมที่ดีที่สุด

แม้ว่าจะมีตัวเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับกันซึมตามท้องตลาดมากมายอยู่แล้ว แต่การใช้สีด้วยเคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยให้คุณเลือกสีได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

ควรเตรียมพื้นผิวให้เรียบเนียนก่อนเสมอ

ก่อนการลง น้ำยากันซึมทุกครั้ง จะต้องแน่ใจว่าพื้นผิวไม่มีฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกใด ๆ โดยสามารถเริ่มจากการเช็ดถูทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งและตามด้วยการใช้แปรงขัดเบา ๆ ที่ผนังก่อนที่จะลงน้ำยากันซึม

ตรวจสอบร่องรอยรั่วซึมก่อนการลงน้ำยา

เพื่อป้องกันสีโป่งพองภายหลัง ต้องให้แน่ใจว่าพื้นผิวไม่มีร้อยแยกหรือรอยร้าวใด ๆ เพราะหากพื้นผิวเกิดรอยร้าวขึ้นอาจทำให้น้ำยาโป่งพองและดูไม่สวยงามหลังจากที่สีแห้งแล้ว

ปรับพื้นคืนกรีตให้เรียบเนียน

หากคุณต้องการลงน้ำการสำหรับกันซึมกับพื้นคอนกรีต จะต้องทำให้แน่ใจว่ามีการปรับพื้นผิวคอนกรีตให้เรียบเรียนก่อนแล้ว และเมื่อพื้นผิวเรียบเนียน จากนั้นจึงสามารถลงน้ำยาที่ช่วยกันซึมนี้ลงไปได้เลย

ควรทาสีอย่างน้อยสองชั้นขึ้นไปเพื่อความคงทน

การใช้สีกันซึมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น จะต้องทาสีอย่างน้อยสองชั้นเพื่อให้แน่ใจว่าสีติดทนและครอบคลุมกับพื้นผนังได้อย่างดี และก่อนที่จะลงสีจะต้องจุ่มแปรงทาสีที่ชุ่มน้ำมากพอสมควร จากนั้นจึงค่อยทาสีลงไป

ทิ้งระยะห่าง 6 ชั่วโมงเพื่อรอให้สีแห้ง

แม้ว่าคุณจะต้องทาสีสองรอบก็ตาม แต่ก็ควรที่จะเว้นระยะเวลาให้สีแห้งอย่างน้อย 6 ชั่วโมง จึงจะทารอบใหม่ ในขณะเดียวกัน หากคุณทาสีรอบที่สองเสร็จแล้ว ก็ควรรอให้สีแห้งเป็นจำนวน 6 ชั่วโมงเช่นเดียวกันและไม่ควรจับพื้นผิวบริเวณที่ทาสีลงไป

การใช้น้ำยากันซึมให้มีประสิทธิภาพจะต้องทำตามเคล็ดลับการทาสีให้ครบทุกขั้นตอน เมื่อคุณทำตามเคล็ดลับดังกล่าวแล้ว พื้นผิวของคุณก็พร้อมที่จะเฉิดฉายความสวยงามและปกป้องพื้นผิวจากเชื้อราหรือตะไคร่ได้เลยทันที